อย่าพึ่งทำคอนเทนต์ถ้าคุณยังไม่รู้ 3 สิ่งนี้

General

【คอนเทนต์ครีเอเตอร์มือใหม่ต้องรู้!!】 ตอนที่ 2 : อย่าพึ่งทำคอนเทนต์ถ้าคุณยังไม่รู้ 3 สิ่งนี้

ก่อนอื่นผมขอเปลี่ยนชื่อซีรีส์บทความจาก “แอดมินเพจมือใหม่ต้องรู้” เป็น “คอนเทนต์ครีเอเตอร์มือใหม่ต้องรู้” เนื่องจากหลักการต่างๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับแพลตฟอร์มอื่นได้ ไม่จำกัดแค่เพจเฟซบุ๊ก

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า


อย่างที่ได้เกริ่นนำไว้ในบทความตอนที่ 1 คอนเทนต์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และเป็นเหมือนท่าไม้ตายที่ทำให้เราอยู่รอดได้ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีมากเกินความจำเป็น (information overload)

หนึ่งในปัญหาของคอนเทนต์ครีเอเตอร์มือใหม่คือช่วงแรกๆ มีแรงฮึด ทดลองทำคอนเทนต์แปลกใหม่มากมายด้วยความคิดที่ว่า “นี่แหละ ผู้คนจะต้องตกตะลึง สิ่งนี้จะเปลี่ยนโลกได้” แต่จำนวนผู้ติดตามกลับต่ำติดดินสวนทางกับความตั้งใจ

สุดท้ายไฟที่ลุกโชนก็ดับลงและตัดสินใจเลิกทำในเวลาไม่นานนัก พลางคิดว่าใช่สิ ฉันมันเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดา คอนเทนต์ครีเอเตอร์มีไว้สำหรับคนที่มีพรสวรรค์ฟ้าประทานเท่านั้น คนอย่างฉันไม่มีทางไปถึงจุดนั้นหรอก

ที่จริงแล้ว ไม่ว่าใครก็เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ถ้าเข้าใจหลักการไม่กี่อย่างเท่านั้น


กฎของการทำคอนเทนต์ที่สำคัญคือ เล่าในสิ่งที่ ‘เขา’ อยากฟัง ไม่ใช่สิ่งที่ ‘เรา’ อยากบอก

คอนเทนต์ครีเอเตอร์มือใหม่มักจะโฟกัสไปที่ทำคอนเทนต์ “อะไร” อันที่จริง เราต้องมุ่งเป้าว่าเราจะทำคอนเทนต์เพื่อ “ใคร” ต่างหาก!

**■ **1. รู้ว่า ‘เขา’ คือใคร

ห้ามตอบว่า “ทุกคน” แบบมิสยูนิเวิร์ส ในชีวิตจริงเราไม่สามารถทำให้ทุกคนพึงพอใจได้

เราต้องมุ่งเป้าไปที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เรียกว่า “กลุ่มเป้าหมาย (target audience)”

■ 2. รู้ว่า ‘เขา’ สนใจอะไร และ ‘เขา’ ต้องการอะไร

หลังจากที่เราได้กลุ่มเป้าหมายแล้ว เราต้องมาวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราสนใจอะไร ต้องการอะไร มีความใฝ่ฝันหรืออยากได้อะไรบ้าง

ถ้าคุณเป็นคนชอบกินอาหารนอกบ้าน แล้วบังเอิญว่ามีร้านบุฟเฟต์เปิดใหม่ใกล้ๆ พนันได้เลยว่าคุณต้องเหลือบมองอย่างแน่นอน

■ 3. รู้ว่า ‘เขา’ มีปัญหาอะไร และทำไม ‘เขา’ ถึงแก้ปัญหานี้ไม่ได้

หลังจากที่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร ให้ลองวิเคราะห์ว่าเขามีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรที่คอยขัดขวางอยู่ เขากลัวอะไร เขากังวลใจเรื่องอะไรบ้าง ทำไมถึงยังไปไม่ถึงเป้าหมายสักที


เมื่อเรารู้ 3 อย่างนี้ เราสามารถทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของเราได้ ยกตัวอย่างเช่น

  1. เขาคือใคร → คนที่อยากไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
  2. เขาสนใจอะไร → สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
  3. เขามีปัญหาอะไร → ไม่รู้จะไปที่ไหนดี   ⇨ “รวมเมืองย่อยที่น่าเที่ยวในญี่ปุ่น ไม่ใช่โตเกียวก็เฟี้ยวได้” → ไม่มีพาสปอร์ต   ⇨ “วิธีเตรียมเอกสารทำพาสปอร์ตแบบง่ายๆ โพสต์เดียวจบ เข้าใจแน่นอน” → ยังไม่ได้จองตั๋วเครื่องบิน   ⇨ “รวมโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-โตเกียวนาริตะ เดือนเมษายน สายการบินไหนถูกสุด มาดูกัน”

  1. เขาคือใคร → คนชอบดูอนิเมะ
  2. เขาสนใจอะไร → อยากดูอนิเมะที่สนุก น่าสนใจ
  3. เขามีปัญหาอะไร → ไม่รู้จะดูอนิเมะอะไรดี   ⇨ “10 อนิเมะที่สนุกเร้าใจ ใครยังไม่ดูถือว่าพลาด” → ไม่รู้ว่าอนิเมะเรื่อง Attack on Titan สนุกมั้ย   ⇨ “รีวิวอนิเมะ Attack on Titan ผ่าพิภพไททัน” → อยากดูซับไทย แต่ไม่รู้ว่ามีที่ไหนบ้าง   ⇨ “รวมแอพดูอนิเมะฟรีแบบถูกลิขสิทธิ์ มีซับไทยด้วยนะ” → อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แต่อยากรู้ข่าวสารตอนล่าสุด   ⇨ “สปอยอนิเมะ xxx ตอนล่าสุด”

  1. เขาคือใคร → มือใหม่อยากลงทุน bitcoin และ cryptocurrency ต่างๆ
  2. เขาสนใจอะไร → สนใจลงทุน bitcoin แต่ไม่มีความรู้
  3. เขามีปัญหาอะไร → ต้องเริ่มอย่างไร   ⇨ “ทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนเริ่มลงทุนใน bitcoin” → เล่นเหรียญ crypto ตัวไหนดี   ⇨ “อัพเดตเหรียญที่พุ่งแรงในเดือนเมษายน” → มีเทคนิคอะไรบ้าง   ⇨ “5 เทคนิควิเคราะห์กราฟ แล้วคุณจะไม่พลาดอีกต่อไป”

จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่าถ้าเรารู้คำตอบของ 3 คำถามง่ายๆ เราสามารถทำคอนเทนต์ที่ถูกใจกลุ่มเป้าหมายของเราได้ ยิ่งเราตอบคำถามเหล่านี้ได้ละเอียดเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมัดใจกลุ่มเป้าหมายของเรามากเท่านั้น

ถ้าเรามีปัญหาหรือความกลัดกลุ้มใจอะไรบางอย่าง แล้วจู่ๆ มีคนเข้ามาช่วยเหลือ ช่วยคลายความกังวลใจของเราได้ ทำไมเราจะไม่อยากติดตามคนนั้นล่ะ

นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือถ้าเรารู้ 3 อย่างนี้ เราจะมีคอนเทนต์ไว้ใช้เขียนได้ตลอดเวลา ไม่มีวันไอเดียตัน คิดคอนเทนต์ไม่ออก

…เพราะว่าปัญหาของคนไม่มีที่สิ้นสุดไงล่ะ!