รีวิวอนิเมะ 9-nine- Ruler's Crown (TV Anime)

Visual Novel

เท้าความก่อนว่าผมชอบซีรีส์ 9-nine- และติดตามมาตลอดตั้งแต่วิชวลโนเวลภาค Kokonotsu (Episode 1) จนถึง New Episode ที่เป็นบทสรุปตอนท้าย แม้ว่ายังไม่ถึงขั้นหลงรักแต่ก็พึงพอใจอย่างมาก ผมยังจดจำการปะทะคารมระหว่างพระเอกกับน้องสาวและเนื้อเรื่องที่แหวกขนบวิชวลโนเวลทั่วไปตามท้องตลาดได้จนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม ผมไม่แนะนำให้ใครดูอนิเมะ 9-nine- Ruler’s Crown ทั้งนั้น ถ้าประเมินเป็นตัวเลขก็คือ 5.5/10 และไม่แน่ใจด้วยว่าตัวเลขนี้มากเกินไปหรือไม่ เนื่องจากอนิเมะเรื่องนี้มีปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ซึ่งก็คือการพยายามยึดติดกับผลงานต้นฉบับมากเกินไป

วิชวลโนเวลคือวิชวลโนเวล อนิเมะคืออนิเมะ สองอย่างนี้เป็นสื่อคนละประเภทกัน การอ่านกับการดูให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน แทนที่จะดัดแปลงเนื้อหาใหม่ให้สอดคล้องกับสื่อประเภทอนิเมะ ทีมงานกลับเลือกที่จะยัดเนื้อหาจากเกมต้นฉบับทั้ง 4 ภาค ความยาวกว่า 45 ชั่วโมงไว้ในอนิเมะ 13 ตอน ซึ่งไม่ว่าพิจารณาจากมุมไหนก็บอกได้ทันทีว่าเวลาน้อยเกินไป

แม้ทีมงานพยายามตัดกระพี้ให้เหลือเพียงแก่น แต่การตัดรายละเอียดปลีกย่อยออกจนเหี้ยนส่งผลให้เนื้อเรื่องไม่ปะติดปะต่อกัน วิชวลโนเวลต้นฉบับใช้เวลาเกือบยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ในการอธิบายกลไกของโลก (world setting) ว่าอาร์ติแฟคท์คืออะไร พลังวิเศษคืออะไร เป้าหมายของพระเอกคืออะไร และแรงจูงใจของคนร้ายที่พยายามขัดขวางพวกพระเอกคืออะไร แต่ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้ถูกอธิบายให้กระจ่างในฉบับอนิเมะเนื่องด้วยกรอบของเวลาที่มีจำกัด

บางประเด็นอาจผลักภาระให้ผู้ชมไปค้นคว้าเพิ่มเติมเองได้ แต่เรื่องที่เลวร้ายที่สุดและมองข้ามไม่ได้ก็คือฉากต่อสู้ คนที่เล่นเกมต้นฉบับจะทราบดีว่าการต่อสู้ในเรื่องนี้ไม่ใช่ตะลุมบอนหรือสาดกระสุนใส่กัน พระเอกคอยคิดวางแผน ร่วมมือกันเป็นทีม วิเคราะห์ท่วงท่าของศัตรูและปรับกลยุทธ์ตลอดเวลาผ่านบทบรรยายในเกม ซึ่งฉบับอนิเมะตัดรายละเอียดทิ้ง ไม่มี monologue ถ่ายทอดให้ผู้ชมเห็นว่าพระเอกกำลังคิดอะไรอยู่ ฉากต่อสู้จึงมีสภาพไม่ต่างจาก “จำอวดหน้าม่าน” ที่มีคนบ้ามุทะลุวิ่งดุ่มๆ เข้าไปตายอย่างอนาจ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงนำพามาสู่คำถามพื้นฐานที่ว่า “จุดมุ่งหมายของการทำอนิเมะเรื่องนี้คืออะไร”

ถ้าทำมาเพื่อคนที่เคยเล่นเกมจบแล้วได้ดีใจที่ได้เห็นตัวละครโปรดที่ตัวเองชอบขยับได้ หรือตัวละครนั้น (ใช่ คนนั้นแหละ) ที่ไม่มีบทบาทในเกมแต่ได้ airtime มากขึ้นจนยอมควักกระเป๋าสตางค์เพื่อซื้อแผ่น Blu-ray อนิเมะมาเก็บสะสมก็ถือว่าประสบความสำเร็จ

แต่ถ้าทำมาเพื่อให้คนทั่วไปเปิดประตูบานแรกเข้าสู่ซีรีส์ 9-nine- ผมคิดว่าอนิเมะเรื่องนี้ยังไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก