ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์

สัปดาห์ก่อนผมเกริ่นไว้ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ บางคนอาจไม่เห็นภาพว่ามันแย่แค่ไหน ดังนั้นผมขออธิบายเพิ่มสักหน่อย

…

ปัญหาที่พบได้ทุกยุคทุกสมัยคือหลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ แต่ไม่มี “เรื่อง” มา “เล่า” ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนก็ต้องไปลับคมวิชา หัดเขียนบทความ ฝึกตัดต่อวีดีโอ หรือทดลองสรรสร้างผลงานอะไรสักอย่างออกมาจนกว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ

แต่ปี 2025 เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว แค่ใช้ AI และ Automation Tools สร้างคอนเทนต์แบบครบวงจรตั้งแต่หาไอเดียจนถึงโพสต์ลงแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องใช้คนเลยแม้แต่ขั้นตอนเดียว ส่งผลให้ทุกวันนี้มีแต่ AI Slop หรือคอนเทนต์คุณภาพต่ำเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคำคมที่ไร้ความคมคาย สรุปนิทานเล่าวนซ้ำไปมา ข่าวปลอมไม่มีที่มา สปอยหนังมั่วซั่ว หรือแย่ที่สุดก็คือขโมยคลิปวีดีโอจากต่างประเทศมาใส่เสียงพากย์สังเคราะห์ทับกันแบบดื้อๆ เลย

…

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตแบบที่สำนักข่าวชอบเอาไปพาดหัวเรียก engagement แต่ในระยะยาวไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เพราะคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไม่มีทางต่อสู้กับ “อะไรก็ไม่รู้” ที่ generate คอนเทนต์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่มีหยุดพัก ลองคิดดูว่ากว่าจะทำหนึ่งคอนเทนต์ได้ต้องใช้เวลามากแค่ไหน แต่เอไอสามารถเสกสิบคลิปวีดีโอภายในหนึ่งวัน เป็นความเร็วขั้นสุดยอดที่คนธรรมดาไม่มีทางทัดเทียมได้เลยแม้แต่นิดเดียว

พฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน สมัยก่อนคอนเทนต์ครีเอเตอร์คาดเดาว่าคนส่วนมากคงไม่สนใจคอนเทนต์ที่สร้างมาจากเอไอหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ยังไงคนก็อยากเสพสื่อที่สร้างขึ้นมาโดยมนุษย์จริงๆ มากกว่า แต่เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นว่าไม่มีใครสนใจ จะใช้หรือไม่ใช้เอไอก็ไม่ใช่ประเด็น

…

ถ้าให้ผมวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต ตอนนี้ Automation Tools ยังใช้งานยากพอสมควร แต่อีกสักพักหนึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะใช้งานง่ายขึ้น และเมื่อคนธรรมดาเข้าถึงและใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ได้คล่องแคล่วเมื่อไหร่ เมื่อนั้นโลกอินเทอร์เน็ตจะถูกทับถมด้วยคอนเทนต์ด้อยคุณภาพจนผู้คนในสังคมรวมถึงเจ้าของแพลตฟอร์มต้องทบทวนมาตรการร่วมกัน

ก่อนที่ช่วงเวลานั้นจะมาถึง ผู้คนจะระแวง (distrust) เพราะแยกไม่ออกว่าสิ่งใดคือเรื่องจริง สิ่งใดคือเรื่องลวงหลอกกันแน่ สุดท้ายก็จะกลับมายังเรื่องที่พื้นฐานที่สุด ซึ่งก็คือดูจาก “ตัวตน” ของผู้สรรสร้างผลงานว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนเหมือนอย่างที่เคยเป็นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

ดังนั้นสูตรสำเร็จแบบเดิมๆ ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป คนที่จะอยู่รอดในยุคถัดไปจึงไม่ใช่คนที่ทำคอนเทนต์ได้ดี เพราะเอไอก็ทำได้แถมยังทำได้ดีเกินคาดด้วย มีเฉพาะคนที่เป็น “ตัวจริง” ในหมวดหมู่คอนเทนต์นั้นๆ เท่านั้นที่จะอยู่รอด